ผู้ผลิตกระเบื้องเซรามิกในไทย หยุดกระเบื้อง แกรนิตโต้ นำเข้าจากจีนไม่อยู่ แม้จะขอให้มีมาตรการกีดกันทางการค้า หรือ Anti-Dumping
ปัจจุบันกระเบื้องแกรนิโต้ได้รับความนิยมเป็นอย่างมาในประเทศไทย ซึ่งทั้งหมดเป็นการนำเข้าจากต่างประเทศ และเกือบ 80% เป็นการนำเข้าจากประเทศจีนสาเหตุหนึ่งก็มาจากประเภทของดินที่ใช้ผลิต Biscuit นั้นที่ประเทศไทยหายากมากประกอบกับต้นทุนในการผลิตที่ประเทศจีน และเวียดนามนั้นเป็นต้นทุนที่ต่ำมากๆ จึงเป็นที่นิยมของบรรดาผู้นำเข้ากว่า 200 รายทั่วประเทศในการนำเข้ามาจำหน่ายในบ้านเรา โดยเฉพาะที่ประเทศจีน
แต่โรงงานที่จีนนั้นก็มีกว่าพันโรง แน่นอนต้องมีทั่งที่มีคุณภาพตามมาตรฐาน มอก. และอีกหลายโรงก็มีมาตรฐานที่ต่ำกว่า แล้วรู้กันหรือเปล่าว่าทำไมตั้งแต่ปี 2557 กระเบื้องแกรนิโต้จะต้องมีมาตรฐาน มอก.กำกับ และทำไมแต่ละโรงจึงเสียภาษี Anti Dumping ไม่เท่ากัน
ผมจะขอเล่าสั้นๆละกันครับ เมื่อ 10 กว่าปีมาแล้วแกรนิตโต้ยังไม่ถูกนำเข้ามาเยอะเท่านี้ ตอนนั้นยังไม่ต้องมี มอก.ก็นำเข้ามาขายได้เลย ณ.เวลานั้นราคาต่อตารางเมตรในรุ่นที่เป็นครีมเรียบเกรด A ยังมีราคา 300 บาทต่อตารางเมตรอยู่เลย แต่ต่อมากระเบื้องแกรนิตโต้ หรือ Polish Tile นิยมกันมากขึ้นเพราะคุณภาพการดูดซึมน้ำต่ำกว่ากระเบื้องเซรามิคในบ้านเรามาก และมีความสวยงามกว่า หมู่บ้านดังๆในประเทศไทยก็เริ่มนิยมกันมากขึ้นจนในที่สุดเมื่อประมาณปี 2556 ราคาลงมาต่ำกว่า 190 บาทต่อตารางเมตร ส่วนเกรด B และ C ไม่ต้องพูดถึง ราคา 160 กว่าบาทต่อตารางเมตรก็เจอมาแล้ว แต่ด้วยคุณภาพที่บางทีก็ต่ำเกินไป ผู้นำเข้าขาดความรับผิดชอบ นำเข้ามาบางทีชื่อโรงงานที่พิมพ์บนกล่องกับโรงงานจริงก็ไม่ตรงกัน ทั้งนี้เพื่อหลบไปใช้โรงงานที่ไม่ผ่านมาตรฐาน มอก. ซึ่งเป็นโรงงานที่ต้นทุนต่ำ และคุณภาพก็ต่ำไปด้วย ถ้านำเข้าผ่านโรงงานพวกนี้ก็จะเสียกำแพงภาษี หรือ Anti-Dumping เฉลี่ย 25%-40% ผู้นำเข้าหัวหมอจึงแอบพิมพ์กล่องของโรงงานที่ได้มาตรฐาน มอก.แทนแต่เอาไปใส่สินค้าที่ไม่มีคุณภาพจากอีกโรงงานเข้ามาขาย และด้วยต้นทุนนำเข้าที่ต่ำมากๆจึงไปกระทบกับโรงงานอุตสาหกรรมผลิตเซรามิค โดยเฉพาะรายใหญ่ของประเทศไทย ผู้ผลิตเหล่านี้จึงไปยื่นเสนอให้ควบคุมสินค้านำเข้านี้ในรูปแบบ Anti-Dumping แต่สุดท้ายก็หยุดไม่อยู่ ยอดนำเข้ากระเบื้องแกรนิตโต้ยังคงพุ่งสูงขึ้นจนน่าตกใจ จนวันนี้ Trend เปลี่ยนไปใช้กระเบื้องแกรนิตโต้กันหมดไม่ว่าจะเป็นครีมเรียบแบบพื้นๆ ไปจนถึงลายแปลกๆ และมีการพัฒนากระบวนการผลิตที่ดีขึ้นเรื่อยๆ ส่วนราคาก็ประมาณ 300 บาทต่อ ตรม.ขึ้นไป เหตุการณ์นี้ไม่ได้เกิดขึ้นเป็นครั้งแรกกับสินค้าแกรนิตโต้ แต่มีตัวอย่างให้เห็นหลายต่อหลายอุตสาหกรรม วันนี้เราควรจะมองย้อนมาดูที่ตัวเราเองด้วยว่า เราสามารถจัดการกับต้นทุนการผลิตของเราที่สูงกว่าจีน หรือเวียดนามได้อย่างไร หรือการปรับตัวเราเองเพื่อให้อยู่รอดในธุรกิจในระดับโลกได้อย่างไร ปัจจุบันผู้ผลิตกระเบื้องเซรามิกในประเทศไทยเกือบทุกรายต่างก็จำเป็นต้องซื้อกระเบื้องแกรนิตโต้ผ่านผู้นำเข้ากันทั้งนั้น ไม่ว่าจะรายใหญ่แค่ไหนก็ตาม ทั้งนี้ก็เพื่อให้ธุรกิจตนเองยังคงสามารถแข่งขันในตลาดได้ บางครั้งการตั้งกำแพงภาษีหรือ Anti-Dumping สูงๆก็ไม่ได้เป็นคำตอบสุดท้ายที่จะทำให้เรากีดกันได้ 100% แต่การเรียนรู้เร็ว และปรับตัวเร็วต่างหากที่จะทำให้ธุรกิจเราสามารถแข่งขันในตลาดได้ สิ่งเหล่านี้ล้วนแต่เป็นสิ่งที่สะท้อนให้เห็นถึงคนที่ปรับตัวช้าในโลกธุรกิจปัจจุบันมักจะล้มหายตายจากไปเร็วกว่าเมื่อก่อน